• 13 Feb 2025
  • กลยุทธ์

วิธีการใช้ Exponential Moving Average (EMA) ในการซื้อขาย

MDP-7146_1_cover_1200x675_EN.png

Moving averages ไม่ได้เป็นเพียงเส้นสีสันสดใสบนกราฟของคุณ เส้นเหล่านี้สามารถเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณได้ วันนี้เราจะเรียนรู้สิ่งใหม่เกี่ยวกับประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving average) เฉพาะ ที่เรียกว่า Exponential Moving Average (EMA)

Exponential Moving Average (EMA) ในการซื้อขายคืออะไร?

เส้น Moving Averages มีสี่ประเภท ได้แก่ simple, exponential, smoothed และ linear weighted ความแตกต่างหลัก ๆ จะอยู่ที่ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ

Exponential Moving Averages (EMA) จะให้น้ำหนักสูงกว่ากับราคาล่าสุด ในขณะที่ Simple Moving Average (SMA) จะให้น้ำหนักกับทุกค่าเท่ากัน เนื่องจาก EMA จะให้น้ำหนักกับข้อมูลล่าสุดมากกว่าข้อมูลเก่า พวกมันจึงมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาล่าสุดมากกว่า SMA นั่นเป็นเหตุผลที่เทรดเดอร์บางคนชอบ Moving Average ประเภทนี้

Simple MA vs Exponential MA

Exponential Moving Average (EMA) และ Simple Moving Average (SMA) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ที่ใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อสร้างเส้นแนวโน้มที่ราบเรียบเพื่อให้ได้ราคาที่ปลอดภัย ความแตกต่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองแบบคือ EMA จะให้น้ำหนักมากกว่ากับราคาล่าสุด ในขณะที่ SMA จะให้น้ำหนักข้อมูลทั้งหมดเท่ากัน ซึ่งทำให้เส้น EMA เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเส้น SMA

ไม่มีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใดที่ดีไปกว่ากัน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เหมาะจะใช้กับการวิเคราะห์มากที่สุดนั้นจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ

แม้ว่า EMA จะแสดงการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดได้แม่นยำกว่าและช่วยระบุแนวโน้มได้รวดเร็วกว่า แต่มันก็ประสบกับความผันผวนในระยะสั้นมากกว่า SMA

เปิดบัญชีทดลอง

วิธีการคำนวณ Exponential Moving Average (EMA)

การคำนวณ EMA นั้นซับซ้อนกว่าการคำนวณ SMA เล็กน้อย ขั้นแรก คุณต้องคำนวณ Simple Moving Average

SMA = ผลรวมของราคาปิดทั้งหมดตามจำนวนช่วงเวลา / จำนวนช่วงเวลา

จากนั้น คุณต้องคำนวณตัวคูณสำหรับปัจจัยของ smoothing / weighting ของ EMA ก่อนหน้า

ตัวคูณ= 2 / (จำนวนช่วงเวลา + 1)

สุดท้าย คุณจะได้ Exponential Moving Average ของช่วงเวลาปัจจุบัน

EMA ของช่วงเวลาปัจจุบัน = (ราคาปิด - EMA ของช่วงเวลาก่อนหน้า) * ตัวคูณ + EMA (ช่วงเวลาก่อนหน้า)

คุณอาจใช้ SMA เป็น EMA ของช่วงเวลาก่อนหน้าได้หากคุณคำนวณ EMA เป็นครั้งแรก

ในยุคแห่งเทคโนโลยีนี้ เราไม่จำเป็นต้องคำนวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง คอมพิวเตอร์จะทำให้เราทั้งหมด

วิธีการตั้งค่า EMA

คุณสามารถดู EMA ในกราฟของคุณในแอป FBS โดยเลือกกราฟที่คุณต้องการใช้ จากนั้นเปิดตัวบ่งชี้ ค้นหาเส้น EMA ตั้งกรอบเวลาที่ต้องการ และนำไปใช้กับกราฟของคุณ ตอนนี้คุณสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาที่สัมพันธ์กับตัวบ่งชี้นี้บนกราฟของคุณได้อย่างง่ายดาย

MDP-7146_2_1200x675_TH.png

ในการใช้ Exponential Moving Average กับกราฟของคุณทั้งใน MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 คุณต้องเลือก Insert - Indicators - Trend จากนั้นคุณต้องคลิกที่ไอคอนปุ่ม Moving Average แล้วเปลี่ยน method ของ MA เป็น Exponential

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือก period, method และแม้กระทั่งสีของ EMA ได้อีกด้วย

MDP-7146_3_1200x675_EN.png

MDP-7146_4_1200x675_EN.png

เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักจะคำนวณ EMA ตามราคาปิด

EMA-8- และ 20 วัน มักจะเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับเทรดเดอร์รายวัน ในขณะที่ EMA 50 และ 200 วัน นั้นเหมาะสมกว่าสำหรับนักลงทุนระยะยาว

การเทรดด้วยเส้น EMA

กลยุทธ์ริบบิ้น EMA (EMA ribbons)

บางครั้งเทรดเดอร์ดูแถบริบบิ้นของเส้น Moving Average ซึ่งจะพล็อตเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จำนวนมากบนกราฟราคาแทนที่จะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพียงเส้นเดียว แม้ว่ามันจะดูซับซ้อน แต่ริบบิ้น EMA ก็มองเห็นได้ง่ายเมื่อนำมาใช้งานบนกราฟ และนำเสนอวิธีง่าย ๆ ในการแสดงภาพความสัมพันธ์แบบไดนามิกระหว่างแนวโน้มในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์พึ่งพาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และริบบิ้นเพื่อระบุจุดกลับตัว ความต่อเนื่อง และสภาวะการซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไป กำหนดพื้นที่แนวรับและแนวต้าน และวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา

ในการสร้างแถบริบบิ้นของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ให้พล็อตเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีระยะเวลาต่างกันไปบนกราฟราคา ค่าพารามิเตอร์ทั่วไปจะประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แปดเส้นขึ้นไป และมีช่วงเวลาตั้งแต่ 2 ถึง 400 แถบริบบิ้นของเส้น EMA ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะประกอบด้วยเส้น EMA 8 เส้น ตั้งแต่ EMA-20 ถึง EMA-55

เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งหมดมาบรรจบกันที่จุดเดียวบนกราฟ ความแข็งแกร่งของแนวโน้มอาจอ่อนลงและบ่งชี้ถึงการกลับตัว ในทางตรงกันข้าม หากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เคลื่อนตัวบานออกจากกัน มันจะบ่งชี้ว่ากรอบราคาและแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งหรือกำลังแข็งแกร่งขึ้น

ในแนวโน้มขาลง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สั้นกว่าจะตัดข้ามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ยาวกว่าลงมา ในทางกลับกัน ในแนวโน้มขาขึ้น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สั้นกว่าจะตัดข้ามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ยาวกว่าขึ้นไป

แถบริบบิ้นของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นั้นตีความได้ง่ายมาก ตัวบ่งชี้จะให้สัญญาณซื้อและขายเมื่อไรก็ตามที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัดกันที่จุดหนึ่ง เทรดเดอร์จะมองหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวจากด้านล่าง และหาจังหวะขายเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดข้ามเส้นอื่น ๆ ทั้งหมดลงมาจากด้านบน

MDP-7146_5_1200x675_TH.png

MDP-7146_6_1200x675_TH.png

นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังใช้แถบริบบิ้นของเส้น EMA เป็นแนวรับและแนวต้านอีกด้วย

  • หากในช่วงขาขึ้น ราคาทะลุและปิดแท่งเทียนใต้แถบริบบิ้นของเส้น EMA นั่นจะเป็นสัญญาณให้เปิด Sell (ขาย)

  • ในทำนองกลับกัน หากในช่วงขาลง ราคาทะลุและปิดแท่งเทียนเหนือแถบริบบิ้นของเส้น EMA นั่นจะเป็นสัญญาณให้เปิด Buy (ซื้อ)

MDP-7146_7_1200x675_TH.png

MDP-7146_8_1200x675_TH.png

ข้อสำคัญ: ควรใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ประเภทเดียวกันหมดในแถบริบบิ้นเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ได้ง่าย ใช้ EMA อย่างเดียวหรือ SMA อย่างเดียวเท่านั้น

กลยุทธ์ EMA สองเส้น

กลยุทธ์ด้านล่างนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดแบบสวิง เราขอแนะนำให้คุณใช้กรอบเวลา H1 เพราะมันเหมาะกับกลยุทธ์นี้มากที่สุด เนื่องจากการใช้ EMA สองเส้นในกรอบเวลาที่ต่ำกว่านั้นอาจสร้างสัญญาณรบกวนจำนวนมากออกมา

กลยุทธ์ในการเปิดสถานะ Long

  • รอให้เส้น EMA ระยะสั้นตัดข้ามเส้น EMA ระยะยาวขึ้นด้านบน

  • รอการยืนยันอื่นๆ (ทำลายระดับสำคัญ)

  • วาง Stop Loss ไว้หลังจุดสูงสุดหรือต่ำสุดล่าสุด

  • ติดตามทิศทางของเส้น Moving Average

  • ปิดสถานะของคุณหลังจากที่ EMA ระยะสั้นตัดข้ามเส้น EMA ระยะยาวไปด้านล่าง หรือราคาแตะถึงเป้าหมายของคุณ

MDP-7146_9_1200x675_TH.png

MDP-7146_10_1200x675_TH.png

หากเส้นสีดำ (EMA ระยะสั้น) ตัดผ่านเส้นสีเทา (EMA ระยะยาว) ไปยังด้านล่าง สิ่งนี้อาจส่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสในการเปิดสถานะ Sell คุณต้องปิดสถานะของคุณเมื่อ EMA ระยะสั้นตัดข้ามเส้น EMA ระยะยาวไปด้านบน

เส้น EMA สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิกได้

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถระบุพื้นที่แนวรับและแนวต้านได้ด้วย EMA ที่กำลังพุ่งขึ้นมีแนวโน้มที่จะรองรับการเคลื่อนไหวของราคา ในขณะที่เส้น EMA ที่กำลังร่วงลงมีแนวโน้มที่จะสร้างแนวต้านให้กับการเคลื่อนไหวของราคา เทรดเดอร์ควรเปิดสถานะ Buy เมื่อราคาอยู่ใกล้เส้น EMA ที่กำลังพุ่งขึ้น และเปิดสถานะ Sell เมื่อราคาอยู่ใกล้เส้น EMA ที่กำลังดิ่งลง สำหรับกลยุทธ์นี้ EMA-25 จะเหมาะที่สุดบนกรอบเวลา H1

MDP-7146_11_1200x675_TH.png

MDP-7146_12_1200x675_TH.png

สรุป

จำนวนและประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ใช้อาจแตกต่างกันไประหว่างเทรดเดอร์แต่ละคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การลงทุนและหลักทรัพย์อ้างอิงหรือดัชนี แต่ EMA นั้นได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เนื่องจากมันให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่า ซึ่งล่าช้าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประเภทอื่น ๆ กลยุทธ์ที่สุดยอดนั้นมีอยู่มากมาย รวมถึง EMA และแถบริบบิ้นของเส้น EMA ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สุดที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อค้นหาจุดเริ่มต้นและจุดหยุดกลับตัวของตลาด

ลงทะเบียนเลย

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ: